พรรณิการ์ วานิช
โฆษกพรรค
เมื่อเลือกอาชีพสื่อหลังเรียนจบปริญญาโทสาขาการเมืองโลกจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ช่อ พรรณิการ์ เชื่อมั่นว่านั่นคืออาชีพหนึ่งที่มีพลังเปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ด้วยการนำเสนอข่าวสาร ข้อมูล ที่ประชาชนควรมีสิทธิ์ได้ร่วมรับรู้ ในฐานะเจ้าของประเทศที่แท้จริง
เธอทำงานด้วยความรักและศรัทธาต่อวิชาชีพนั้นอยู่ 6 ปีเต็ม เป็นหกปีที่สภาวการณ์รอบข้างผกผันหนักหน่วงไปด้วยกระแสการเมืองแบบเก่าที่หวนมาใหม่ เป็นการเมืองที่แทบจะไม่มีประชาชนอยู่ในตัวตั้งของการคำนวณผลได้ผลเสียใดๆ เลย ทั้งความแตกร้าว ทั้งความเหลื่อมล้ำ หลากปัญหาลงลึกเสียจนลำพังการเป็นนักข่าวอาจช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้นได้ไม่มากนัก ไม่ว่าจะพยายามทำหน้าที่อย่างซื่อตรงสักเพียงไหนก็ตาม และยิ่งเสรีภาพของการนำเสนอข้อเท็จจริงสู่สังคมและประชาชน กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากขึ้นทุกทีหลังการรัฐประหารครั้ง
ล่าสุดในปี 2557 โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสะเทือนใจที่ได้เห็นสื่อมวลชนจำนวนมากเลือกที่จะเซ็นเซอร์ตัวเองเพื่อหลบเลี่ยงความยุ่งยากที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งกับตัวเองและองค์กร การตัดสินใจลาออกจากอาชีพสื่อของพรรณิการ์อาจสร้างความรู้สึกเสียดายให้กับผู้ที่ติดตามเธออยู่ตลอดมา แต่ในเวลาเดียวกันก็อาจพูดได้เต็มปากว่า หนทางใหม่สู่สายการเมืองเต็มตัวเช่นนี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินความคาดหมายสำหรับใครก็ตามที่รู้จัก ช่อ พรรณิการ์ อย่างแท้จริง
ประวัติ
พรรณิการ์เกิดวันที่ 28 มกราคม 2531 (ค.ศ. 1988) ปัจจุบันอายุ 30 ปี เป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด
ประวัติการศึกษา
- ปริญญาตรี รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (International Relations) (2553)
- ปริญญาโท MSc Global Politics, London School of Economics and Political Science ประเทศอังกฤษ (2554)
ประวัติการทำงาน
- สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี (2554 - 2560) ตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออก บรรณาธิการฝ่ายต่างประเทศ
- พิธีกรรายการสารคดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทยและประเทศอาเซียน iASEAN
- พิธีกรรรายการวิเคราะห์ข่าวการเมืองและเศรษฐกิจ Tonight Thailand
- พิธีกรรรายการวาไรตี้ ที่มีทั้งเรื่องการเมือง สิทธิมนุษยชน แฟชั่น วัฒนธรรม ท่องเที่ยว จากมุมมมองของผู้หญิง Divas Café
- พิธีกรรายการข่าวต่างประเทศ Voice World Wide
- เคยฝึกงานที่กรมเอเชียใต้, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา สังกัดกระทรวงต่างประเทศ
งานอดิเรกและความชอบส่วนตัว
เป็นคนชอบท่องเที่ยวมาตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นและต้องมาทำงานเป็นสื่อมวลชน จุดหมายการเดินทางส่วนหนึ่งของเธอก็เปลี่ยนเป็นเรื่องของงาน อย่างเช่น การรายงานผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียในปี 2557 การเดินทางไปสหรัฐอเมริกาในปี 2559 เพื่อรายงานข่าวการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 45 และในปีเดียวกันก็ไปสหราชอาณาจักรเพื่อรายงานการลงประชามติ Brexit รวมถึงการไปถ่ายทำรายงานเรื่องผู้ลี้ภัยโรฮิงญาที่คอกซ์บาซาร์ บังกลาเทศ
อาศัยช่วงเวลาที่ว่างจากภารกิจ เสาะแสวงหาผ้าพื้นถิ่นจากทุกที่ที่ไป จนกระทั่งค้นพบว่าที่สุดแล้ว ผ้าที่เธอชอบที่สุดก็คือผ้าไทยและผ้าเชียงตุง นอกจากการเดินทางและสะสมผ้า เธอยังชอบอ่านหนังสือทุกชนิด ตั้งแต่นิยายรักของนักเขียนไทยรุ่นคลาสสิก ทมยันตี ไปจนถึงมหากาพย์แฟนตาซีอย่าง The Lord of the Rings ของ J.R.R. Tolkien
อีกหนึ่งความหลงใหลคือการทำอาหาร แถมยังทำได้หลากหลายเมนูนานาชาติ ที่รู้สึกสนุกเป็นพิเศษคือการทำขนมอบรูปแบบต่างๆ เธอทำแม้แต่โยเกิร์ตกินเอง และถึงจะแทบไม่ได้ทำอะไรแบบนี้อีกแล้วเมื่อทางเดินชีวิตที่เลือกใหม่นี้เรียกร้องเวลาส่วนตัวไปจากเธอแทบหมด 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน แต่เธอก็พร้อมจะแลก ถ้ามันจะทำให้สังคมนี้ดีขึ้น
บทบาทในพรรคอนาคตใหม่
เมื่อทั้ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล ชวนมาร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีความลังเลใดๆ สำหรับพรรณิการ์ และน่าจะพูดได้เลยว่า สำหรับคนที่รู้จักและติดตามผลงานกันมานานพอสมควร พรรณิการ์คือโฆษกพรรคอนาคตใหม่ก่อนที่เธอจะได้รับตำแหน่งนี้จริงๆ เมื่อวันประชุมใหญ่ผู้จดจัดตั้งพรรค 27 พฤษภาคม 2561 เสียอีก